“Enola Holmes” เป็นภาพยนตร์จอเงินของ “Neflix” โดยเล่าเรื่องราวของ Enola Holmes หญิงสาววัย 16 ปี ซึ่งเป็นน้องสาวของนักสืบชื่อดัง Sherlock Holmes ซึ่งเป็นตัวละครจากผลงานสร้างสรรค์ของเซอร์อาเธอร์ โคนัน ดอยล์ (Arthur Conan Doyle)
โดยในเรื่องนั้นจะบอกเล่าเรื่องราวของ Enola ซึ่งอาศัยอยู่กับแม่ของเธอแล้วจนวันหนึ่ง แม่ของเธอก็ได้หายออกไปจากบ้านเพื่อไปทำภารกิจบางอย่าง ซึ่งสร้างความสงสัยให้กับ Enola เป็นอย่างมาก และนำไปสู่การออกตามหาแม่ที่หายไป ซึ่งในระหว่างทางเธอได้เข้าไปช่วยชีวิต Lord Tewsbury ขุนนางหนุ่มซึ่งมีความฝันจะเดินตามรอยพ่อที่จะ “ปฏิรูป” ประเทศอังกฤษจากการถูกปองร้าย ทำให้ Enola ต้องเข้าไปพัวพันกับเรื่องวุ่นวายในครั้งนี้
การ “ปฏิรูป” ที่ถูกพูดถึงในเรื่องนั้นมีความสำคัญอยู่ 3 เรื่อง ได้แก่
ประการแรก คือ การปฏิรูประบบการเลือกตั้องของอังกฤษในปี ค.ศ. 1884 โดยรัฐบาลผลักดันให้เกิดการพระราชบัญญัติปฏิรูป ค.ศ. 1884 หรือ “Third Reform Act 1884” ซึ่งเป็นกฎหมายที่ขยายสิทธิการเลือกตั้งแก่ผู้ใช้แรงงานในภาคการเกษตรหรือแรงงานรับจ้างในไร่ โดยผลของกฎหมายฉบับนี้ทำให้ชาวนาอังกฤษมีสิทธิเลือกตั้งเพิ่มขึ้นอีกราวๆ 2.5 ล้านคน จึงอาจกล่าวได้ว่ากฎหมายฉบับนี้ได้ทำให้เกณฑ์ผู้มีสิทธิเลือกตั้งเปลี่ยนไปเป็น “ชาย” บรรลุนิติภาวะทุกคนและเป็นเจ้าของหรือเช่าที่อยู่อาศัยมีสิทธิเลือกตั้งทุกคน
ประการที่สอง คือ การปฏิรูปการถือครองที่ดิน (ประเด็นนี้ถูกพูดถึงไม่มากมีประมาณ 2 ฉาก)
ประการที่สาม คือ กระแสสตรีนิยมที่เริ่มก่อตัวขึ้นในสังคมอังกฤษ ซึ่งจะเห็นได้จากหลายๆ ฉากในหนังแม้จะไม่ได้พูดถึงตรงๆ เช่น การที่แม่ของ Enola อ่านหนังสือแนวคิดแบบสตรีนิยม การที่แม่สอนศิลปะการต่อสู้ให้กับ Enola หรือแม้แต่ในตอนท้ายของเรื่องที่แม่ของ Enola พูดถึงการพยายามเปลี่ยนแปลงโลกที่ลูกสาวของเธอจะเติบโตขึ้นมา เป็นต้น ซึ่งการปฏิรูปสำคัญที่สุดของกลุ่มเคลื่อนไหวสตรีนิยมในขณะนั้นคือ การเรียกร้องให้ผู้หญิงมีสิทธิเลือกตั้งเสมอภาคกับผู้ชาย
ซึ่งจะเห็นได้ว่าในหนังนั้นหยิบประเด็นทางสังคมและการเมืองต่างๆ มาเล่าได้อย่างสนุกสนานผ่านการผจญภัยของ Enola และนอกจากนี้ตัวหนังยังพยายามที่จะเล่าความคิดทางการเมืองผ่านบรรดาตัวละครสำคัญต่างๆ อาทิ ทั้งท่านหญิงย่าของ Lord Tewsbury หรือ Mycroft พี่ชายของ Enola ซึ่งเป็นตัวแทนของผู้มีแนวคิดแบบอนุรักษ์นิยม แม่ของ Enola ที่มีแนวคิดแบบเสรีนิยมหรือบรรดาผู้หญิงในสมาคมของแม่ และ Sherlock ซึ่งเป็นตัวแทนของคนชนชั้นกลางค่อนไปทางสูงที่มีความพึ่งพอใจในสถานะและไม่ถูกกดขี่ทางสังคมจึงเลือกที่จะไม่ให้ความสำคัญหรือสนใจกับปัญหาทางการเมือง
ตัวหนังบอกเล่าเรื่องราวทางการเมืองและอำนาจไปได้ไกลกว่าเพียงแค่ในภาพใหญ่ระดับการเมืองของชาติ แต่ตัวหนังยังสะท้อนเรื่องราวของอำนาจทางการเมืองต่างๆ ที่ปกคลุมอยู่บนตัวผู้คน เช่น ในตอนที่ Enola ถูกส่งเข้าไปเรียนในโรงเรียนกุลสตรี ซึ่งฉากนั้นนำเสนอภาพของอำนาจที่กดทับตัวผู้หญิงชั้นสูงของอังกฤษที่ต้องมีมารยาท กริยา และบุคลิกสอดคล้องกับมาตรฐานแบบวิกตอเรียน หรือประเด็นเรื่องความแตกต่างระหว่างช่วงวัยและอำนาจที่กดทับกันระหว่างความอาวุโส ซึ่งส่วนนี้จะเห็นได้ชัดในครอบครัวของ Lord Tewsbury
สำหรับสิ่งสุดท้ายที่ชอบที่สุดในหนังเรื่องนี้ก็คือ การกล่าวถึงความเชื่อมมั่นและการพยายามทำให้เห็นถึงโลกที่เราคาดหวังจะให้เป็นโดยอุทิศกำลังและแรงกายในการทำสิ่งนั้น ซึ่งจะเห็นได้จากความพยายามขับเคลื่อนของแม่ของ Enola กับ Lord Tewsbury และแม้กระทั่งตัวของ Enola เอง
บทความอื่นที่เกี่ยวข้อง
Enola Holmes เล่าเรื่องอำนาจผ่านการผจญภัย
“Enola Holmes” เป็นภาพยนตร์จอเงินของ “Neflix” โดยเล่าเรื่องราวของ Enola Holmes หญิงสาววัย 16 ปี ซึ่งเป็นน้องสาวของนักสืบชื่อดัง Sherlock Holmes ซึ่งเป็นตัวละครจากผลงานสร้างสรรค์ของเซอร์อาเธอร์ โคนัน ดอยล์ (Arthur Conan Doyle)
โดยในเรื่องนั้นจะบอกเล่าเรื่องราวของ Enola ซึ่งอาศัยอยู่กับแม่ของเธอแล้วจนวันหนึ่ง แม่ของเธอก็ได้หายออกไปจากบ้านเพื่อไปทำภารกิจบางอย่าง ซึ่งสร้างความสงสัยให้กับ Enola เป็นอย่างมาก และนำไปสู่การออกตามหาแม่ที่หายไป ซึ่งในระหว่างทางเธอได้เข้าไปช่วยชีวิต Lord Tewsbury ขุนนางหนุ่มซึ่งมีความฝันจะเดินตามรอยพ่อที่จะ “ปฏิรูป” ประเทศอังกฤษจากการถูกปองร้าย ทำให้ Enola ต้องเข้าไปพัวพันกับเรื่องวุ่นวายในครั้งนี้
การ “ปฏิรูป” ที่ถูกพูดถึงในเรื่องนั้นมีความสำคัญอยู่ 3 เรื่อง ได้แก่
ประการแรก คือ การปฏิรูประบบการเลือกตั้องของอังกฤษในปี ค.ศ. 1884 โดยรัฐบาลผลักดันให้เกิดการพระราชบัญญัติปฏิรูป ค.ศ. 1884 หรือ “Third Reform Act 1884” ซึ่งเป็นกฎหมายที่ขยายสิทธิการเลือกตั้งแก่ผู้ใช้แรงงานในภาคการเกษตรหรือแรงงานรับจ้างในไร่ โดยผลของกฎหมายฉบับนี้ทำให้ชาวนาอังกฤษมีสิทธิเลือกตั้งเพิ่มขึ้นอีกราวๆ 2.5 ล้านคน จึงอาจกล่าวได้ว่ากฎหมายฉบับนี้ได้ทำให้เกณฑ์ผู้มีสิทธิเลือกตั้งเปลี่ยนไปเป็น “ชาย” บรรลุนิติภาวะทุกคนและเป็นเจ้าของหรือเช่าที่อยู่อาศัยมีสิทธิเลือกตั้งทุกคน
ประการที่สอง คือ การปฏิรูปการถือครองที่ดิน (ประเด็นนี้ถูกพูดถึงไม่มากมีประมาณ 2 ฉาก)
ประการที่สาม คือ กระแสสตรีนิยมที่เริ่มก่อตัวขึ้นในสังคมอังกฤษ ซึ่งจะเห็นได้จากหลายๆ ฉากในหนังแม้จะไม่ได้พูดถึงตรงๆ เช่น การที่แม่ของ Enola อ่านหนังสือแนวคิดแบบสตรีนิยม การที่แม่สอนศิลปะการต่อสู้ให้กับ Enola หรือแม้แต่ในตอนท้ายของเรื่องที่แม่ของ Enola พูดถึงการพยายามเปลี่ยนแปลงโลกที่ลูกสาวของเธอจะเติบโตขึ้นมา เป็นต้น ซึ่งการปฏิรูปสำคัญที่สุดของกลุ่มเคลื่อนไหวสตรีนิยมในขณะนั้นคือ การเรียกร้องให้ผู้หญิงมีสิทธิเลือกตั้งเสมอภาคกับผู้ชาย
ซึ่งจะเห็นได้ว่าในหนังนั้นหยิบประเด็นทางสังคมและการเมืองต่างๆ มาเล่าได้อย่างสนุกสนานผ่านการผจญภัยของ Enola และนอกจากนี้ตัวหนังยังพยายามที่จะเล่าความคิดทางการเมืองผ่านบรรดาตัวละครสำคัญต่างๆ อาทิ ทั้งท่านหญิงย่าของ Lord Tewsbury หรือ Mycroft พี่ชายของ Enola ซึ่งเป็นตัวแทนของผู้มีแนวคิดแบบอนุรักษ์นิยม แม่ของ Enola ที่มีแนวคิดแบบเสรีนิยมหรือบรรดาผู้หญิงในสมาคมของแม่ และ Sherlock ซึ่งเป็นตัวแทนของคนชนชั้นกลางค่อนไปทางสูงที่มีความพึ่งพอใจในสถานะและไม่ถูกกดขี่ทางสังคมจึงเลือกที่จะไม่ให้ความสำคัญหรือสนใจกับปัญหาทางการเมือง
ตัวหนังบอกเล่าเรื่องราวทางการเมืองและอำนาจไปได้ไกลกว่าเพียงแค่ในภาพใหญ่ระดับการเมืองของชาติ แต่ตัวหนังยังสะท้อนเรื่องราวของอำนาจทางการเมืองต่างๆ ที่ปกคลุมอยู่บนตัวผู้คน เช่น ในตอนที่ Enola ถูกส่งเข้าไปเรียนในโรงเรียนกุลสตรี ซึ่งฉากนั้นนำเสนอภาพของอำนาจที่กดทับตัวผู้หญิงชั้นสูงของอังกฤษที่ต้องมีมารยาท กริยา และบุคลิกสอดคล้องกับมาตรฐานแบบวิกตอเรียน หรือประเด็นเรื่องความแตกต่างระหว่างช่วงวัยและอำนาจที่กดทับกันระหว่างความอาวุโส ซึ่งส่วนนี้จะเห็นได้ชัดในครอบครัวของ Lord Tewsbury
สำหรับสิ่งสุดท้ายที่ชอบที่สุดในหนังเรื่องนี้ก็คือ การกล่าวถึงความเชื่อมมั่นและการพยายามทำให้เห็นถึงโลกที่เราคาดหวังจะให้เป็นโดยอุทิศกำลังและแรงกายในการทำสิ่งนั้น ซึ่งจะเห็นได้จากความพยายามขับเคลื่อนของแม่ของ Enola กับ Lord Tewsbury และแม้กระทั่งตัวของ Enola เอง
บทความอื่นที่เกี่ยวข้อง