แด่อาจารย์อนันต์ จันทรโอภากร

ส่วนตัวแล้วผมไม่เคยมีโอกาสได้เรียนกับอาจารย์อนันต์ จันทรโอภากร เนื่องจากพื้นฐานความสนใจในการเรียนที่ไม่ได้มีความสนใจทางด้านกฎหมายแพ่งและพาณิชย์หรือกฎหมายธุรกิจมากเท่าใดนัก การได้รู้จักกับอาจารย์จึงมาจากคำบอกเล่าแบบปากต่อปากถึงความเข้มงวดของอาจารย์มากกว่า ผมกับอาจารย์จริงๆ แล้วจึงอาจจะเรียกว่าเป็นคนที่รู้จักกันแบบผิวเผินมากกว่าแล้วไม่น่าจะเรียกว่าเป็นศิษย์อาจารย์สายตรง แต่อาจจะเป็นเพียงศิษย์ร่วมสำนักเท่านั้น

สิ่งที่ทำให้ผมรู้จักอาจารย์มากขึ้นอาจจะเป็นเพราะ Facebook ที่ทำให้เราได้มีโอกาสพูดคุยหรือแลกเปลี่ยนกันมากขึ้น ผมอาจจะคล้ายๆ กับนักศึกษานิติศาสตร์หลายคนที่ในช่วงแรกที่มีความเห่อเหิมในครูบาอาจารย์ของตัวเอง ชนิดที่ยกให้ครูบาอาจารย์ตัวเองเป็นที่สุด (ซึ่งอาจจะไม่ผิดนักเพราะอาจารย์หลายคนก็เป็นที่สุดจริงๆ ในทางวิชาการในสาขาและแนวทางของท่าน) ผมจึงได้เริ่มรู้จักอาจารย์อนันต์ในอีกด้านหนึ่ง

สิ่งที่พบคือ อาจารย์อนันต์เป็นคนหนึ่งที่ปรารถนาดีกับลูกศิษย์มากๆ คนหนึ่งตามประสาครูบาอาจารย์ที่มีความเข้มงวด สมัยก่อนที่ผมและเพื่อนๆ ได้มีโอกาสทำแฟนเพจที่ชื่อว่า “วิวาทะอาจารย์นิติ” ที่แม้ในตอนแรกเราตั้งใจเรียนแบบเพจวิวาทะสมัยก่อน เพื่อหยิบเอาประเด็นวิพากษ์วิจารณ์สังคมในห้องเรียนของอาจารย์มานำเสนอ แต่สุดท้ายก็ได้แค่เพจรวมคำคมเสี่ยวๆ กับคำสอนการใช้ชีวิตเท่านั้น

บน Facebook อาจารย์อนันต์มักจะมีคำพูดหรือแง่มุมที่สะท้อนความเข้มงวดที่แฝงไปด้วยความหวังดีของอาจารย์ในฐานะครูบาอาจารย์ เรามักจะหยิบเอาข้อความในหน้า Facebook ของอาจารย์มาโพสต์เป็นเนื้อหาในเพจเสมอๆ

แต่สิ่งที่ผมได้ประจักษ์กับความมุ่งมั่นที่จะส่งเสริมลูกศิษย์ของอาจารย์คือ เมื่อช่วงหลายๆ ปีก่อน อาจารย์ได้ไปคุยกับเพื่อนสนิทของอาจารย์ว่า นักศึกษาหลายคนไม่มีโอกาสได้เรียนติวการสอบเนติบัณฑิต เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายที่สูง รวมถึงบางครั้งคนที่สอนก็อาจจะไม่ได้เชี่ยวชาญจริงๆ อาจารย์จึงขอทุนสนับสนุนจากเพื่อนที่เป็นนายกสมาคมนิติศาสตร์ธรรมศาสตร์ (และประธานของบริษัทไซโจเดนกิ) แล้วหาลูกศิษย์ที่พอไว้ใจได้กลุ่มหนึ่งมาช่วยกันจัดสอนและบรรยายที่คณะนิติศาสตร์ ท่าพระจันทร์ ความมุ่งมั่นของอาจารย์ในเรื่องนี้เป็นสิ่งที่ผมชื่นชมมากๆ ผมไม่แน่ใจหรอกว่าอาจารย์ทำไปแล้วจะมีผลออกมามากน้อยแค่ไหน แต่ผมชื่นชมที่จำนวนคนที่เห็นประโยชน์ของสิ่งนี้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เริ่มมีนักศึกษารุ่นใหม่ๆ ผลัดมาทำหน้าที่ติวเตอร์ และจำนวนคนเข้าติวในช่วงหลังก็เพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นเรื่องที่ดีที่อาจารย์ได้ทำไว้ให้กับคนหลายๆ คน

ผมมักจะชอบติดตามอ่านเรื่องราวบน Facebook ของอาจารย์ ทั้งความเป็นชาวพุทธที่เคร่งครัดในหลักธรรม และเรื่องราวชีวิตส่วนตัวของอาจารย์เช่นเดียวกันกับอาจารย์ผู้ใหญ่ที่ผมนับถือหลายๆ คน ในนิสัยใจคอส่วนบุคคล

จนกระทั่งช่วงหนึ่งที่ผมไม่ค่อยเห็น Facebook ของอาจารย์อัพเดทอะไรเท่าไร ก็ได้แต่สันนิษฐานว่าอาจารย์ยังสบายดี แล้วใช้ชีวิตอย่างเป็นสุขที่ใดสักแห่ง แต่ท้ายที่สุดผมถึงได้ทราบว่าอาจารย์ไม่สบายมาสักพักแล้ว และได้มาจากไปในท้ายที่สุด

แม้ผมจะไม่ได้เป็นลูกศิษย์ของอาจารย์โดยตรง แต่ผมก็เคารพในปณิธานเล็กๆ ที่อาจารย์มี แล้วในฐานะของคนที่มุ่งมั่นเป็นครูบาอาจารย์ ผมก็หวังแค่ว่าตัวผมจะมีความมุ่งมั่นในการขัดเกลาศิษย์ให้ได้สักครึ่งหนึ่งของอาจารย์ และมีเมตตาให้ได้เช่นอาจารย์มีกับศิษย์

ผมขอให้การเดินทางครั้งนี้ของอาจารย์เป็นไปโดยสงบสุขและสันติ ขอแสดงความนับถือและเสียใจแก่ครอบครัวจันทรโอภากรไว้ ณ ที่นี้